อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส 9 วันโดย สายการบิน ไทย (TG ) |
|||
อัตราค่าบริการ |
ผู้ใหญ่ (พักห้องคู่) |
พักเดี่ยว จ่ายเพิ่ม |
|
วันที่ 7 – 15 มีนาคม 2563 | 79,999 | 15,000 |
วันที่ 1 :: | กรุงเทพฯ – โรม(อิตาลี) |
21.30 น. |
คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ D สายการบิน ไทย (TG) สังเกตุป้าย กราเซีย กรุ๊ป เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง |
วันที่ 2 :: | โรม – กรุงวาติกัน – มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ – โคลอสเซียม – น้ำพุเทรวี่– บันไดสเปน – วิหารแพนเธออน – ปิซ่า(อิตาลี) |
00.01 น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี โดยเที่ยวบินที่ TG 944 บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน |
06.00 น. |
เดินทางถึง สนามบินลีโอนาร์โด ดาร์วินชี่ (ฟูมิซิโน) หลังผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ กรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลีซึ่งมีอดีตอันยิ่งใหญ่ และเกรียงไกรในยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจเมื่อราวกว่า 2,000 ปีที่ผ่านมา จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ นครรัฐวาติกัน รัฐอิสระที่ปกครองตนเองเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก นำท่านเข้าชมภายใน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลัก “เพียต้า” ผลงานของศิลปินเอก ไมเคิลแองเจโล เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย เบอร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลีชมร่องรอยของศูนย์กลางแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ โรมัน ฟอรั่ม,จากนั้นคณะแวะถ่ายรูปที่ระลึกด้านหน้า สนามกีฬาโคลอสเซียม โบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน การออกแบบอย่างชาญฉลาดสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในปัจจุบัน จากนั้นให้ ท่านถ่ายภายคู่กับประตูชัยคอนสแตนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ “ ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม ” รถโค้ชนำท่านวิ่งผ่านชมสถานที่ต่างๆรอบกรุงโรม |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน) (มื้อที่ 1) |
บ่าย |
จากนั้นนำท่านชม น้ำพุเทรวี่ เป็นน้ำพุที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ชื่อ “เทรวี่” นั้นมาจากคำว่า“ตรีวิอุม” หมายถึงพบกันของถนนสามสาย เป็นอนุสรณ์สไตล์บารอก ออกแบบและก่อสร้างโดย นิโคลา ซาลวี่ ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปา ครีเมนต์ที่ 12ได้มอบหมายให้สร้างขึ้นในปี 1732 การก่อสร้างดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งภายหลังการสิ้นพระชนม์สมเด็จสันตะปาปาที่ เออร์บัน ที่ 8ได้หยุดชะงักลง และดำเนินการสร้างต่อมาจนแล้วเสร็จในปี 1762 รวม ใช้เวลาทั้งสิ้น 30ปี ทางระบายน้ำ เวอร์โก้ บริเวณลานด้านหน้านั้นก่อสร้างมากว่า 2000ปี ครั้งสมัยโรมโบราณซึ่งปกครองโดยจักรพรรดิออกัสตัส ซึ่ง ตรงเวลา 19 ปี ก่อนคริสต์ศักราช รูปปั้นแกะสลักที่เลิศหรูอลังการที่อวดโฉมให้ผู้ไปเยือนได้ยลนั้น ได้แนวคิดจากความยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าเนปจูน “เทพแห่งท้องทะเล” ว่ากันว่า หากใครที่ได้โยนเหรียญลงไปในน้ำ เขาหรือเธอผู้นั้นจะได้กลับมาเยือนอีกในสักวัน จากนั้นให้คณะได้ถ่ายรูปภาพคู่ บันไดสเปน เป็นบันไดในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ชื่อ Francesco de Sanctis เชื่อมระหว่าง Piazza di Spagna และ Piazza Trinità dei Monti เป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ใช้สำหรับเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ที่ย่าน บันไดสเปน นับว่าเป็นแหล่งพักผ่อนของชาวอิตาลีและ นักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ นำท่านชม วิหารแพนเธออน เป็นสถาปัตยกรรมสำคัญ สร้างขึ้น โดยจักรพรรดิมาร์กุส วิปซานิอุส อากริปปา จุดมุ่งหมายในการสร้างไม่ชัดเจนต่อมามีการสร้างใหม่ในสมัยจักรพรรดิเฮเดรียน ใน ค.ศ. 126 และซ่อมใหญ่ในปี ค.ศ. 202 โดยจักรพรรดิ เซพติมิอุส เซเวรุส และคาราคาลา การก่อสร้างในสมัยจักรพรรดิเฮเดรียนมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเทวสถานของเทพเจ้าโรมัน 7 องค์หรือเทพแห่งดาวในระบบสุริยะ APOLLOพระอาทิตย์ DIANA พระจันทร์ MARS อังคาร MERCURY พุธ JUPITER พฤหัส VENUS ศุกร์ SATURN เสาร์ ลักษณะเด่นของตัววิหารคือมีหลังคาทรงกลมและโค้งเป็นครึ่งวงกลมวางอยู่บนเสาหินแกรนิตขนาดมหึมา วิหารมีความสูงถึง 43.3 เมตร รายละเอียดของโดมหลังคาภายในวิหาร รวมถึงโครงสร้างที่แข็งแรงและยืนหยัดมานานกว่าสองพันปี ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 7 เป็นต้นมา วิหารแห่งนี้ถูกใช้เป็นโบสถ์โรมันคาธอริค อุทิศแด่พระแม่มารีและผู้พลีชีพเพื่อศาสนา ออกเดินทางสู่ แคว้นทอสคาน่า เมืองปิซ่า ท่านจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามของบ้านเรือนแบบอิตาลีและปราสาทตั้งสูงสง่างามอยู่บนเนินเขา และเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นดีของเมืองนี้ |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารพื้นเมือง สปาเก็ตตี้ต้นตำหรับอิตาลี + อาหารจานหลัก (เมนคอร์ส) + ของหวาน) (มื้อที่ 2) |
วันที่ 3 :: | เมืองปิซ่า – หอเอนปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก – เมสเตร้ – นั่งเรือสู่เกาะเวนิส – สะพานถอนลมหายใจ – จัตุรัสซานมาร์โค – วิหารซานมาร์โค (อิตาลี) |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 3) |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน) (มื้อที่ 4) |
บ่าย |
ท่าน เดินทางสู่ เกาะเวนิส – เมรเตร้ เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของโลก “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน” มีเกาะเล็กใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง เดินทางสู่ เกาะซานมาร์โค ศูนย์กลางของนครเวนิสระหว่างทางท่านจะได้ชมอนุสาวรีย์ของพระเจ้าวิคเตอร์เอมานูเอลที่ 2 บิดาของชาวอิตาเลี่ยน ให้ท่านได้ถ่ายภาพคู่กับสะพานถอนหายใจ ที่เชื่อมต่อระหว่าง “Doge Palace” ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้นอีกด้วย ชม จัตุรัสเซนต์มาร์คโค ที่มีโบสถ์เซนต์มาร์คเป็นฉากหลัง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ อิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเวนิสตามอัธยาศัย อาทิ เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตำรับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบ และคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางกลับเมือง เมสเตร้ |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5) |
วันที่ 4 :: | เมสเตร้ – มิลาน – อินเทอร์ลาเค่น ( สวิตเซอร์แลนด์ ) |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 6) |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน) (มื้อที่ 7) |
บ่าย |
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ช สู่ เมืองอินเทอร์ลาเค่น เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันลือชื่อ , นาฬิกาดอกไม้ , สถานคาสิโน ฯลฯ ให้ท่านเดินเล่นพักผ่อน ชื่นชมบรรยากาศของตัวเมืองที่มีทุ่งหญ้ากว้างกลางเมือง มีสวนดอกไม้เล็กๆ น่ารักสร้างสีสันให้ตัวเมือง รวมทั้งมีอาคารคาสิโนคูซาลอายุกว่า 100 ปีที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และยังเป็นคาสิโนของเมืองอีกด้วย |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (ฟองดูว์ ต้นตำหรับสวิตเซอร์แลนด์) (มื้อที่ 8) |
วันที่ 5 :: | พิชิตยอดเขาจุงเฟรา – สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป – ถ้ำน้ำแข็ง 1000ปี – สวิสสฟิงซ์ – ลูเซิร์น ( สวิตเซอร์แลนด์ ) |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 9) |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวันเมนูที่ดีที่สุด ณ ภัตตาคาร บนยอดเขาจุงฟราว (มื้อที่ 10) |
บ่าย |
นำท่านขึ้น สวิสสฟิงซ์ หรืออาคารสังเกตุการณ์ ที่ความสูง 3,571 เมตร/11,716 ฟิต ท่านสามารถชมวิวได้รอบ 360 องศาจากระเบียงได้ประสบการณ์แสนประทับใจการเดินทางสู่ ยุงค์ ฟราวยอร์ค-หลังคายุโรป ไปแล้วไม่ได้มาจุดชมวิว จุดนี้เสมือนมาไม่ถึง ได้เวลาอันสมควรนำคณะเดินทางลงจากยอดเขา โดยเส้นทางรถไฟอีกด้านหนึ่งเพื่อ เปลี่ยนบรรยากาศ ไม่ให้ซ้ำทางเดิมผ่านเมือง เวนเก้น เมืองที่สร้างบ้านแบบสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีความสวยงามมากจนยากที่จะลืม แวะเปลี่ยนรถไฟที่สถานีไคลน์ไชเด็คซึ่งบริเวณสถานีนี้ ล้นเกล้ารัชกาลที่5 เคยเสด็จมาแล้ว จนกระทั่งถึงเมืองเลาเท่นบรุนเน่น (LAUTERBRUNNEN) หลังจากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า เวียวาลด์ สแตร์ทเตอร์ อันหมายถึงทะเลสาบสี่พันธรัฐ |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 11) |
วันที่ 6 :: | เมืองลูเซิร์น – สะพานไม้ชาเปล – อนุสาวรีย์สิงโต – เดินเล่นชิวๆชมเมือง – เมืองซุก – ดิจอง (ฝรั่งเศส) |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 12) |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน) (มื้อที่ 13) |
บ่าย |
จากนั้นออกเดินทางโดยรถโค้ชข้ามพรมแดนของ สวิสเซอร์แลนด์ – ฝรั่งเศส เดินทางผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่สู่เขตแคว้นเบอร์กันดี ที่มีการปลูกต้นมาสต้าเพื่อนำมาผลิตมาเป็น มัสตาร์ด อีกทั้งยังเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นดีของประเทศฝรั่งเศส เดินทางเข้าสู่ เมืองดีจอง ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งที่สวยงามของประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดีชมอาคารบ้านเรือนสมัยเรอเนสซองส์ |
ค่ำ |
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (อาหารพื้นเมือง สไตล์ฝรั่งเศส ) (มื้อที่ 14) |
วันที่ 7 :: | ดิจอง – รถไฟด่วน TGV – พระราชวังแวร์ซายส์ – ล่องเรือแม่น้ำแซน – ถนนชองเอลิเซ่ – ประตูชัยปารีส – อาหารพื้นเมืองหอยเอสคาโก้อบเนยในร้านสุดหรู (ฝรั่งเศส) |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 15) |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (อาหารจีน) (มื้อที่ 16) |
บ่าย |
นำท่านเดินทางไปยัง แวร์ซาย อดีตเมืองหลวงและศูนย์กลางการเมืองการปกครองในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 อยู่ห่างจากปารีสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร นำท่านเข้าชม พระราชวังแวร์ซาย (มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย ในแต่ละห้องข้อมูลแน่นปึ๊ก ที่สำคัญเที่ยวแบบ VIP ไม่มีต่อคิว) พระราชวังที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใหญ่ที่สุดในปฐพี ชมความอลังการของพระราชวังซึ่งได้รับการตกแต่งไว้อย่างหรูหราวิจิตรบรรจง ชมความงดงามของห้องต่างๆ อาทิเช่น ห้องอพอลโล, ห้องนโปเลียน ห้องบรรทมของราชินี, ห้องโถงกระจกท้องพระโรง, ห้องสงครามและสันติภาพ รวมถึงเรื่องราวและความเป็นมาของอดีตอันยิ่งใหญ่ของพระราชวังแห่งนี้ จากนั้นอิสระให้ท่านได้ชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณอุทยานอันร่มรื่นและหลากหลายด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสีสันสวยงาม นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือบาตามูซ เพื่อล่องเรือแม่น้ำแซน ชมวิวทิวทัศน์กันบนดาดฟ้าเรือ ชื่นชมความงามของทัศนียภาพของนครปารีส ชมสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองสองฝั่งของแม่น้ำแซน โบราณสถาน และอาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรอเนสซองส์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ตลอดทางท่านจะได้ความประทับใจกับความสวยงามของทัศนียภาพที่ร่วมกันสรรสร้างให้นครปารีสได้ชื่อว่าเป็นนครที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อาทิเช่น สะพานอเล็กซานเดอร์, ศาลาว่าการ, จัตุรัสคองคอร์ด, โรงกษาปณ์, เกาะอิลเดอลาซิเต้ ศูนย์กลางเมืองแห่งแรก สถานที่ตั้ง มหาวิหารนอเทรอดาม หรือโบสถ์นอเทรอดาม สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิคที่ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีอย่างงดงาม ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับพิธีราชาภิเษกนโปเลียนขึ้นครองราชย์ มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี และทำให้ให้ปารีสโดดเด่นเป็นมหานครที่งดงามแห่งหนึ่งของโลกงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (ในกรณีที่น้ำในแม่น้ำแซนขึ้นสูงกว่าปกติหรือมีเหตุการณ์สุดวิสัย เช่น การนัดหยุดงาน เป็นต้น รายการล่องแม่น้ำแซนอาจจะไม่สามารถดำเนินการได้)จากนั้นนำท่านไปชม ประตูชัย สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของนโปเลียน ก่อนนั่งรถผ่านชมสองฟากฝั่ง ถนนชองป์เซลิเซ่ ต้นแบบถนนราชดำเนินของไทย ซึ่งเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านค้าขายของดีราคาแพงจากดีไซเนอร์ชื่อก้องโลกสู่ จัตุรัสคองคอร์ด สถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสและยุโรป เป็นลานประหารที่ตั้งกิโยตินซึ่งคร่าชีวิตผู้คนนับพันในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศสปี ค.ศ. 1789 |
ค่ำ |
รับประทานอาหารแบบพื้นเมืองฝรั่งเศส (เมนู หอยเอสคาโก้อบเนย ,ท่านสามารถ เลือก สเต็กสไตล์ฝรั่งเศส 1 อย่าง อาทิ เป็ดอบซอส/ ปลา / เนื้อวัว / แกะ พร้อมจิบไวน์ฝรั่งเศส ตบท้ายด้วยของหวาน ) (มื้อที่ 17) |
วันที่ 8 :: | ขึ้นหอไอเฟลชั้น2 – DUTY FREE – พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ – ช้อปปิ้ง |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 18) |
เที่ยง |
อาหารกลางวัน อิสระตามอัธยาศัยเพื่อสะดวก และให้เวลากับการช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ |
บ่าย |
จากนั้นอิสระให้ท่านช็อปปิ้งสินค้าที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แกลลารี่ ลาฟาแยตต์ ซึ่งมีสินค้าแบรนด์เนมทุกยี่ห้อรวมถึง Louise Vuitton ท่านที่ไม่มีความประสงค์ช้อปปิ้งสามารถเดินชมความงามของบ้านเมืองและโรงละครโอเปร่า ที่เก่าแก่สวยงาม เพราะย่านช็อปปิ้งอยู่กลางเมืองมีอาคารบ้านเรือนสวยงามมาก ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินชาร์ลเดอร์โกล เพื่อทำการเช็คอิน และทำ TAX REFUND |
21.30 น. |
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย (TG) เที่ยวบินที่ TG 933 บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเที่ยวบิน |
วันที่ 9 :: | ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ( กรุงเทพฯ) |
15.00 น. |
เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดี...พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม |
จองทริปนี้
กรุณากรอกข้อมูลด้านล่างให้ครบถ้วนเพื่อความรวดเร็วในการติดต่อกลับไปหาท่าน